เผาแล้ว 4 ศพ เหยื่อ ‘อดีต ผอ.ปืนโหด’ สังหารยกครัว ญาติร่ำไห้น้ำตาท่วมวัด

เผาแล้ว 4 ศพ เหยื่อ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนปืนโหด บุกยิงสังหารยกครัว ญาติ เพื่อน พี่ๆน้องๆ ร่ำไห้น้ำตาท่วมวัด

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่วัดมหาพุทธาราม (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในพิธีฌาปณกิจศพ ของ นายปรมัตถ์ สามัญ หรือทนายป้อม ที่ถูก นายปฐพี อดีต ผอ.โรงเรียน ยิงจนเสียชีวิต เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติ เพื่อน พี่ๆ น้องๆ พากันมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายเป็นจำนวนมาก

โดยพี่สาวของ ทนายป้อม กล่าวทั้งเสียงสะอื้นว่า หากสามารถบอก ทนายป้อม น้องชายตนได้ หากรับฟังอยู่ อยากบอกให้น้อง ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ให้เกิดมาเป็นน้องชายตนอีก ในทุกชาติ ตอนนี้คิดถึงน้องมาก คิดถึงจนแทบขาดใจ หลังน้องชายตนเสียชีวิต ตนก็อยากเห็นหน้าน้องชายตนอีก ไม่ว่าจะมาเป็นวิญญาณมาปรากฏตัว หรือให้เห็นในลักษณะไหนก็ตาม ตนก็อยากจะเจอน้อง แต่ตนพยายามเดินหาน้อง เรียกหาน้องทุกคืนทุกวัน ก็ไม่เห็นแม้เงามาปรากฏให้ตนเห็น อยากจะบอกว่ารักมาก และอยากให้มาหามาปรากฎตัวให้เห็นสักครั้ง ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดก็ตาม

ด้านหลานสาวของ ทนายป้อม กล่าว่า ทนายป้อม เป็นคนจิตใจดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ทุกคนที่อยู่รอบข้างตัวจะรักและเคารพ ชอบพูดให้เรามองโลกในแง่บวง ชอบพูดให้คนอื่นมีกำลังใจ ตนเป็นลูกป้า หรือลูกพี่สาวของทนายป้อม ตั้งแต่เมื่อพ่อตนเสียชีวิตไป เมื่อ 11 ปีก่อน และตนมีน้องชายอีก 1 คน ทนายป้อม จะเป็นคนส่งเสียค่าเล่าเรียน ค่าเทอมให้หลานๆทั้งหมด รวม 5 คน และเอามาทำงานที่สำนักงานทนายความด้วย เนื่องจาก ทนายป้อม ไม่มีลูก ก็เลยอยากได้หลานมาเป็นคนสืบทอดสกุล และอยากให้หลานๆเป็นทนายตามรอยน้า ซึ่งทนายป้อม ก็พูดมาตลอดว่า ถ้าไม่มีใครเป็นทนาย ตามรอยน้า หนังสือ เอกสารที่อยู่ในสำนักงานทนายความหลายร้อยเล่ม ใครจะสืบทอด จึงอยากให้หลานทั้งสองคน เป็นทนายตาม จึงผลักดันให้เรียนต่อ ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะตั้งใจเรียนให้จบ และหลังเรียนจบแล้ว ก็จะสอบตั๋วทนาย ให้ได้เป็นทนายความ ตามความมุ่งหวังของทนายป้อม ให้ได้

ขณะที่บรรยากาศงานฌาปณกิจศพของ น.ส.ดวงเดือน หรือผอ.เหมียว อายุ 41 ปี พร้อมกับ นางหยกมณี แม่ของ ผอ.เหมียว และนายบุญเลื่อน น้าเขยของ ผอ.เหมียว ที่วัดบ้านหอย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจเช่นกัน มีบรรดาญาติๆ เพื่อนพ้อง น้องพี่ ลูกๆ หลานๆ และคณะครู มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายกันอย่างเนืองแน่น โดยมีการแสดงรำไทย หน้าศพ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอีกด้วย