ตร.ยังต้องรอสอบปากคำหามูลเหตุจูงใจ หลังไม่พบสารเสพติดในตัวลูกตัดคอแม่

ตร.ยังต้องรอสอบปากคำลูกชายที่ก่อเหตุตัดคอแม่ หลังไม่พบสารเสพติดในตัว และแพทย์ลงความเห็นให้ใช้ยานอนหลับ คาดปมถูกแม่ด่าเรื่องดุหลาน

จากกรณีเกิดเหตุ นายณัฐพรหรือชวน ก่อเหตุใช้ใช้มีดพร้าฟันศีรษะนางจำปา อายุ 73 ปี มารดา จนศีรษะขาดแล้ว แล้วเดินนำศีรษะออกไปจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับใช้มีดฟันไปตลอดทาง ก่อนที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จะช่วยกันจับกุมผู้ก่อเหตุไว้ได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.ไพฑูรย์ จะกระจ่าง ผกก.สภ.เวียงสระ กล่าวว่าหลังควบคุมตัวนายณัฐพรได้แล้ว ผู้ก่อเหตุไม่ได้แสดงอาการคุ้มคลั่ง แต่มีอาการนิ่งเฉย และไม่ยอมพูดจา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ เพื่อทำการตรวจหาสารเสพติด และตรวจสอบอาการทางจิตเวช

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนเบื้องต้น​ทราบว่า​ โดยผู้ก่อเหตุเป็นบุตรคนที่ 3 ของผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นว่าลูกทั้ง 5 คนของผู้ตาย ได้นั่งล้อมวงกันอยู่บนพื้นจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จู่ๆ นายณัฐพรได้ลุกขึ้นและใช้มีดพร้า พุ่งเข้าไปฟันคอนางจำปา จนศีรษะขาดทันที แล้วหยิบศีรษะเดินออกไป โดยไม่ได้ทำร้ายบุคคลอื่น

ตร.ยังต้องรอสอบปากคำหามูลเหตุจูงใจ หลังไม่พบสารเสพติดในตัวลูกตัดคอแม่

และจากการตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้น รับรายงานจากแพทย์ว่า ไม่พบสารเสพติดทั้งชนิดกัญชา และแอมเฟตามีนแต่อย่างใด ซึ่งแพทย์ได้ทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาสารเสพติดในชั้นสูงต่อไป อย่างไรก็ตามในขณะนี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ โดยแพทย์มีความเห็นให้ใช้ยานอนหลับ กับผู้ต้องหาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงคาดว่าหลังจากนี้ถึงจะสามารถสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจได้

พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุได้ไปเที่ยวงานวัดทุ่งหลวง และดื่มสุราขาว จนเมามาย ก่อนจะมีปัญหาทะเลาะกับภรรยา รุ่งเช้าจึงได้มาหาแม่ที่บ้านเกิดเหตุ ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุได้ด่าทอหลาน(ลูกของพี่ชาย) ทางผู้ตายจึงได้ต่อว่านายณัฐพร จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อเหตุสลดดังกล่าว