โทรหา3สายไม่รับ นักการเมืองหญิง สัมพันธ์ลับ พระ จ่อถามสามีนักธุรกิจ

โทรหา 3 สายไม่รับ ประชาธิปัตย์ ตั้งกรรมการสอบ นักการเมืองหญิง สัมพันธ์ลับ พระมหาหนุ่ม วัย 24 ปี เตรียมเรียกสามีนักธุรกิจถามข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 เม.ย.2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีนักการเมืองหญิง อักษรย่อ ป. มีความสัมพันธ์ลับกับพระ ว่า นักการเมืองหญิง เป็นอดีตผู้สมัคร สส.ของพรรค ซึ่งพรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากสื่อมวลชนโทรมาสอบถามและมีข้อมูลแจ้งมายังตน

นายราเมศ กล่าวยืนยันว่า พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันที ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค ได้รายงานให้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทราบทันที เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

โทรหา 3 สายไม่รับ ประชาธิปัตย์ ตั้งกรรมการสอบ นักการเมืองหญิง สัมพันธ์ลับ พระมหาหนุ่ม วัย 24 ปี

นายราเมศ กล่าวต่อว่า สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องสถาบันครอบครัว โดยตามข้อบังคับพรรค ข้อที่ 26 กำหนดไว้ว่าสมาชิกพรรคต้องปฏิบัติตนอยู่ภายใต้กรอบจริยธรรม คุณธรรมอย่างเคร่งครัด

นายราเมศ กล่าวอีกว่า เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่อง จึงมีคำสั่งในทันทีให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบความเป็นมาสมาชิกพรรคของบุคคลดังกล่าว พบว่าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จนถึงปัจจุบัน

โฆษก ปชป. กล่าวว่า โดยสมัครสมาชิกเมื่อวันที่ 26 มี.ค.66 โดยอดีตผู้สมัคร สส. หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวทำกิจกรรมการเมือง และไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในพรรค และวันนี้จะมีการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน ตามที่หัวหน้าพรรคได้มอบหมาย ก่อนจะรายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาต่อไป

นายราเมศ ระบุว่า ได้ติดต่อคุณ ป. ไปถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งยังติดต่อไปอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าแต่ยังติดต่อไม่ได้ และมีความจำเป็นติดต่อกับสามี เพื่อสอบถามความจริงด้วย เท่าที่ทราบสามีเป็นนักธุรกิจ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรม และศีลธรรม คณะกรรมการบริหารพรรคก็มีอำนาจในการขับออกจากสมาชิกพรรค

ส่วนการตรวจสอบเรื่องชู้สาวสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า และการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น นายราเมศ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณสมบัติตามข้อบังคับ ข้อที่ 6 แต่ต้องยอมรับเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องยากที่จะไปสอบ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคต้องรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันการเมือง

ทุกองค์กรให้ความสำคัญพรรค ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และหากลไกป้องกันมีมาตรการชัดเจนเด็ดขาด หัวหน้าพรรคก็เน้นย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคต่อไป

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า เมื่อมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ในฐานะพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ พูดความจริงกับสังคมเพื่อให้สังคมได้รับรับทราบ แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบที่จริงใจ มีกระบวนการอย่างแท้จริงเพื่อให้สังคมเห็นว่าเราเป็นสถาบันทางการเมืองอาสารับใช้พี่น้องประชาชน หากเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล เรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรม และจริยธรรม ถ้าไม่ให้ความสำคัญพี่น้องประชาชนจะไว้วางใจและศรัทธาเราได้อย่างไร… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่