News

วิสามัญฯ หนุ่มคลั่งควงสปาต้าไล่ฟัน ถืออาวุธคล้ายปืน วิ่งเข้าใส่ ตร. เจอยิงสวนดับ

วิสามัญฯ หนุ่มคลั่งควงสปาต้าไล่ฟัน ถืออาวุธคล้ายปืน วิ่งเข้าใ่ส่ ตร. เจอยิงสวนดับ ชาวบ้านเผยสุดเอือมระอา คลุ้มคลั่งถืออาวุธเป็นประจำ

เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 4 ส.ค. 2567 พ.ต.ท.พร้อมศักดิ์ รัตนภักดี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุตำรวจเข้าระงับเหตุยิงชายคุ้มคลั่งได้รับบาดเจ็บ ที่ริมรั้วข้างกำแพงวัดน้อยโพธิ์คำ (วัดพระใหญ่) ชุมชนน้อยใต้ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จ.นครพนม จึงรายงาน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.อ.สุระชัย นครคำสิงห์ รอง สวป. รถกู้ชีพ 166 9 รพ.นครพนม ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวร รพ.นครพนม

299367

ที่เกิดเหตุพบศพชายนายสิงห์ คำดี อายุ 40 ปี อาชีพเก็บของเก่า ชาวลาว สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าท้อง ถัดจากมือซ้าย 1 เมตรพบมีดดาบสปาต้ายาว 2 ฟุต ใกล้มือขวาพบอาวุธปืนไม่ทราบชนิดตกอยู่

299356

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแจ้งเหตุบุกรุกและคลุ้มคลั่ง ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ 2 นาย จึงขับรถไปตรวจสอบ และโทรเรียกกำลังเสริม ก่อนที่คนร้ายจะคว้ามีดดาบสปาต้าไล่ฟันและเล็งอาวุธปืนมาทางเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่จึงวิ่งหนีไปคนละทิศทาง ขณะถึงใต้ต้นมะเดื่อ คนร้ายวิ่งเข้ามาชาร์จระยะประชิด และจะใช้มีดดาบฟัน ตำรวจจึงชักอาวุธปืนยิงสวนไป 3-4 นัด เพื่อป้องกันตัวตามยุทธวิธี ทำให้คนร้ายล้มแน่นิ่ง เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบยังมีชีพจรและหายใจรวยริน จึงรีบโทรแจ้งรถกู้ชีพมารับตัวไปส่งรักษาที่ รพ.นครพนม แต่ไม่ทัน ทำให้นายสิงห์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

299355

ด้านพี่เขยผู้ตาย อายุ 50 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายสิงห์ขับรถสามล้อสกายแล็บเข้ามาจอดหน้าบ้าน จู่ๆ เกิดคลุ้มคลั่งโวยวายเสียงดังอาละวาด ซึ่งเป็นมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากชอบเสพยา ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเอือมระอา จึงแจ้งตำรวจสายตรวจให้มาระงับเหตุ

พี่เขยผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสิงห์เคยตีลูกชายตนจนสลบเย็บ 10 เข็ม จึงแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ตำรวจเคยมาจับกุมตัว 2-3 ครั้งในข้อหาลักขโมยเหล็ก และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง เคยติดคุกมา 1 ปี อาการสงบลง แต่หลังจากนั้น 4-5 เดือน ก็กลับมาคลุ้มคลั่งตลอด ถ้าไม่สู้กับตำรวจก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี

นางดาว จันทะลา อายุ 75 ปี ชาวลาว แม่ผู้ตายร้องห่มร้องไห้ยืนพิงผนังปูนบ้าน ปิ่มจะขาดใจนานกว่าครึ่งชั่วโมง อยากจะขอดูศพลูกชาย กล่าวว่า ตนไม่เห็นตอนลูกชายเอามีดไล่ฟันตำรวจ เพราะนั่งอยู่ในบ้าน ส่วนปืนที่อยู่ในมือลูกชายเป็นปืนปลอม จนได้ยินเสียงปืนดัง 4-5 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดู พบลูกหายใจรวยริน ก่อนเสียชีวิต

ด้านพี่เขยผู้ตาย อายุ 50 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายสิงห์ขับรถสามล้อสกายแล็บเข้ามาจอดหน้าบ้าน จู่ๆ เกิดคลุ้มคลั่งโวยวายเสียงดังอาละวาด ซึ่งเป็นมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากชอบเสพยา ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเอือมระอา จึงแจ้งตำรวจสายตรวจให้มาระงับเหตุ

พี่เขยผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสิงห์เคยตีลูกชายตนจนสลบเย็บ 10 เข็ม จึงแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ตำรวจเคยมาจับกุมตัว 2-3 ครั้งในข้อหาลักขโมยเหล็ก และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง เคยติดคุกมา 1 ปี อาการสงบลง แต่หลังจากนั้น 4-5 เดือน ก็กลับมาคลุ้มคลั่งตลอด ถ้าไม่สู้กับตำรวจก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี

นางดาว จันทะลา อายุ 75 ปี ชาวลาว แม่ผู้ตายร้องห่มร้องไห้ยืนพิงผนังปูนบ้าน ปิ่มจะขาดใจนานกว่าครึ่งชั่วโมง อยากจะขอดูศพลูกชาย กล่าวว่า ตนไม่เห็นตอนลูกชายเอามีดไล่ฟันตำรวจ เพราะนั่งอยู่ในบ้าน ส่วนปืนที่อยู่ในมือลูกชายเป็นปืนปลอม จนได้ยินเสียงปืนดัง 4-5 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดู พบลูกหายใจรวยริน ก่อนเสียชีวิต

299346

ขณะที่เพื่อนบ้าน กล่าวว่า นายสิงห์คิดจะต่อสู้กับตำรวจ มือซ้ายถืออาวุธมีดดาบ ส่วนมือขวาถืออาวุธปืนลักษณะคล้ายขึ้นลำ ที่ผ่านมามักจะถือมีดและถือปืนเอะอะโวยวาย จนเพื่อนบ้านเอือมระอา จึงแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า ขณะตำรวจสายตรวจ 2 นาย ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาตรวจสอบ ผู้ตายเข้าไปในบ้านและถือมีดดาบยาว 2 ฟุต พร้อมอาวุธคล้ายปืนสีเทามีแม็กกาซีน ออกมาจะฟันและจะยิงตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงหนีไปคนละทิศทาง แต่เมื่อเห็นคนร้ายตรงเข้ามาใกล้และจะทำร้าย จึงยิงป้องกันตัว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานอัยการ แพทย์เวร และฝ่ายปกครอง มาร่วมชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากเป็นเหตุวิสามัญฆาตกรรม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *