ใหม่ สุคนธวา ดื่มน้ำล้างเท้า – อาบน้ำล้างเท้าพ่อ เชื่อเป็นมงคลชีวิตสูงสุด
นับตั้งแต่มีครอบครัว นักแสดงสาว ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร ก็วางมือจากงานในวงการบันเทิง และผันตัวไปทำธุรกิจส่วนตัว เพื่อจะได้มีเวลาดูแลสามีและลูก ๆ ให้มากขึ้น
โดยล่าสุด (20 มิถุนายน 2567) ก็ถือโอกาสดี ปรากฏตัวในรายการ คุยแซ่บShow พร้อมควงแขนคุณพ่อบังเกิดเกล้า คุณพ่อปัญญา มาร่วมพูดคุยด้วยกัน
การมาเยือนรายการในครั้งนี้ ‘ใหม่ สุคนธวา’ ได้เปิดใจในหลาย ๆ สิ่ง โดยเธอยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมามีบ้างเรื่องที่เป็นปมในใจ สิ่งที่ติดค้างว่าอยากทำให้พ่อแต่ยังไม่ได้ทำ พร้อมกับชี้แจงปมดราม่าที่ถูกมองว่าสร้างภาพ จากการดื่มน้ำล้างเท้าคุณพ่อ
สำหรับสิ่งที่เป็นปมในใจของสาวใหม่ก็คือ “เรื่องรถ” ด้วยความที่ไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวย จำได้ว่าหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองตั้งแต่สิบกว่าขวบ บ้างก็ไปประกวดนู่นประกวดนี่ ขึ้นเวทีนั้นเวทีนี้หาเงิน แล้วก็บอกคุณพ่อว่าจะหาเงินส่งตัวเองเรียน ทั้งยังไม่มีบ้านดี ๆ โดยหลังที่อยู่สมัยก่อนเป็นบ้านไม้ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ว่าบ้านไม้ไม่ดี สำหรับใหม่แค่รู้สึกว่าอยากให้คุณภาพชีวิตครอบครัวหรือชีวิตพ่อปัญญาดีกว่าคำว่าบ้านไม้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คิดจะทำงาน หาเงินซื้อบ้าน จะต้องให้พ่ออยู่บ้านหลังใหญ่ 50 – 60 ล้านให้ได้ อันนั้นก็คือความฝันหนึ่งและมันก็สำเร็จไปแล้ว แต่เรื่องที่ 2 คือรถ สมัยก่อนไม่มีรถ ไปไหนก็ลำบาก คุณพ่อได้รถมาคันนึงเป็นรถจากคุณอาซึ่งไม่ใช่รถมือสองที่จะต้องตกมาอยู่ในที่ของเขา เป็นมือสามมือสี่มือห้า มันเป็นรถที่เก่ามาก ๆ แล้ว แต่เขาต้องซื้อไว้มาในราคาหลักหมื่น ก็เลยรู้สึกว่าพ่อต้องยอมขนาดนี้เลยหรอเพื่อที่จะได้ขับรถไปรับไปส่งลูก และทำให้ครอบครัวมีความสุข
สิ่งนี้จึงเป็นภาพฝังใจว่า ฉันจะต้องซื้อรถให้พ่อให้ได้โดยที่ต้องเป็นรถเบนซ์ ไม่ได้บอกว่ารถยี่ห้ออื่นไม่ดี แต่หมายถึงว่ามันเป็นความรู้สึกของแต่ละบุคคล ใช้คำว่าที่สุดที่จะทำให้พ่อภูมิใจพ่อไม่เคยขอรถเบนซ์ พ่อไม่เคยขออะไรจากลูกคนนี้ พ่อไม่เคยอยากได้ด้วย แต่อยากทำให้เขาเอง เพื่อเป็นการทำให้เขาหายเหนื่อย เพราะคนคนนี้ไม่เคยพูดคำว่าเหนื่อยออกมาจากปากจนใหม่อายุ 42 แต่ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่ความกตัญญูนะ เพราะบางคนจะรู้สึกว่ากตัญญูไม่ต้องตอบแทนด้วยบ้านหรือรถ เพียงแต่เรามีความสุขและก็สะดวกแบบนี้
ในช่วงท้ายของรายการ สาวใหม่ได้เผยความในใจต่อคุณพ่อว่า รักพ่อมาก ขอบคุณที่พ่อคอยดูแลทุกอย่าง ก่อนจะเล่าต่อว่า สิ่งที่จะทำอยู่เสมอในเวลาที่รู้สึกว่าไม่ค่อยโอเคกับตัวเองก็คือเข้าหาคุณพ่อ ไม่จำเป็นต้องไปหากราบไหว้พระ หรือไปเจิมหน้าหรือลงนะที่ไหน แต่จะให้พ่อเอาเท้ามาเจิมที่หน้า ล้างเท้าให้พ่อ ให้พ่อเหยียบหัว ให้พ่อให้พร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ รวมถึงกินน้ำล้างเท้า อาบน้ำล้างเท้าของพ่อ ส่วนตัวเชื่อว่าดีกว่าไปพรมน้ำมนต์ 9 วัด และทำบุญรูปแบบอื่น ๆ