News

รับศพการ์ดหนุ่ม ถูกเจ้าของผับยิงดับ แม่คาใจปมวงจรปิด ทั้งที่เป็นประโยชน์กับคนยิง

รับศพการ์ดหนุ่ม บรรยากาศสุดเศร้า ถูกเจ้าของผับยิงดับ แม่คาใจปมวงจรปิด ทั้งที่เป็นประโยชน์กับคนยิง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มิ.ย.67 ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นางรจนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พร้อมด้วย นายวารินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี แม่และพ่อ พร้อมครอบครัว เดินทางมารับศพ นายณัฐพล หรือนาษ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้เสียชีวิตถูก นายธวัชชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เจ้าของผับแห่งหนึ่ง ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด บริเวณหน้าผับดังกล่าว ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา อ่านข่าว ปืนลั่นเจาะหัวการ์ดดับ เจ้าของผับชื่อดัง ยื้อแย่งปืน พลาดลั่นใส่ศีรษะ เผยปมเหตุ

นางรจนา กล่าวว่า ยังติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากหลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดถูกทำลาย โดยเจ้าของผับอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย ทั้งที่เป็นผับใหญ่มีชื่อเสียง อีกทั้งในที่เกิดเหตุ เจ้าของผับอ้างว่ามีการต่อสู้กัน เนื่องจากลูกชายซึ่งเป็นการ์ดพกอาวุธปืนเข้าไปเจรจา หลังมีปากเสียงกับลูกค้าในผับ จึงถูกเจ้าของผับตำหนิ

ทำให้ลูกชายโมโห ชักปืนออกมายิง ก่อนที่เจ้าของผับจะแย่งปืนไป แล้วเกิดปืนลั่นทำให้ลูกชายเสียชีวิต ซึ่งคำอ้างนี้เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะทำเช่นนั้น เนื่องจากลูกชายเป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกับนายจ้าง ดังนั้นมูลเหตุที่ลูกชายต้องเสียชีวิตครั้งนี้ อาจเป็นเพราะลูกชายไปรู้เห็นบางเรื่องที่อาจทำให้เจ้าของผับไม่พอใจ

นางรจนา กล่าวอีกว่า ไม่เชื่อว่าในที่เกิดเหตุ จะมีเพียงลูกชายกับเจ้าของผับ 2 คน เพราะลูกชายมีร่างกายแข็งแรง และเคยต่อยมวย จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนอื่นร่วมก่อเหตุด้วย หรือจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุปืนลั่น ดังนั้นจึงอยากให้นำกล้องวงจรปิดออกมาเปิดเผย เพราะหากทะเลาะกันแค่ 2 คนจริง กล้องวงจรปิดก็จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของผับเช่นกันในการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนอาวุธปืนตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายมีได้อย่างไร เพราะเพิ่งเข้ามาทำงานได้สัปดาห์เดียว และทุกวันก็ยังต้องขอเงินตนวันละ 200 บาท เพื่อเป็นค่าอาหาร จึงไม่เชื่อว่าลูกจะมีอาวุธปืน

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้รับการประสานจากทนายความของเจ้าของผับ ว่าจะเข้าขอขมาศพ ทางครอบครัวก็ยินดี แต่ในส่วนการดำเนินคดีก็จะดำเนินการถึงที่สุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย

ด้าน นายวารินทร์ กล่าวว่า เจอลูกครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต โดยลูกชายอยากกินก๋วยเตี๋ยว แต่ตนก็ไม่ได้ซื้อฝาก จนตอนนี้ไม่มีโอกาสแล้ว ส่วนแม่ ก็เล่าทั้งน้ำตาว่า ทุกครั้งที่เจอหน้ากันลูกจะหยอกล้อระหว่างรับประทานอาหาร ทำให้เป็นภาพติดตา เมื่อลูกจากไปแล้ว ก็ยังรู้สึกเหมือนลูกมาหยอกล้อทุกครั้งที่รับประทานอาหาร

ทางด้าน พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาแล้ว และได้ส่งตรวจกล้องวงจรปิดกับกองพิสูจน์หลักฐาน ว่าถูกทำให้เสียหาย หรือว่าพังอยู่แล้ว และจะสามารถกู้คืนข้อมูลได้หรือไม่ โดยจะต้องใช้เวลาตรวจสอบสักระยะ และจะตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดให้รอบด้านอย่างละเอียด เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยและชี้แจงกับครอบครัวที่ติดใจในทุกประเด็นแน่นอน

ทั้งนี้ครอบครัวได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถตู้สีขาว ของเพจสายไหมต้องรอด ทะเบียน อ-9935 กรุงเทพมหานคร เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศล และสวดอภิธรรม ณ วัดพรพระร่วงประสิทธิ์ แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *