News

สมาชิกวงเร้กเก้ดัง ร้องโดนผู้รับเหมา หลอกสร้างบ้าน สูญ 8 ล้าน ช้ำใช้วิศวกรเก๊คุมงาน

สมาชิกวงเร้กเก้ดัง ร้องโดนผู้รับเหมา หลอกสร้างบ้าน สูญ 8 ล้าน ช้ำใช้วิศวกรเก๊คุมงาน จ่อทุบทิ้งทั้งหมด ลุยแจ้งความ ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

วันที่ 6 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กชื่อ “ขอนแก่นอย่าล้ำเส้น” เพจข่าวในจังหวัดขอนแก่น โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับการที่สมาชิกวงดนตรีชื่อ “มาเจนต้า” ซึ่งเป็นวงดนตรีอิสระแนวเร้กเก้ชื่อดังของไทย ที่มี นายวรชาติ ธรรมวิจินต์ หรือ “พล่ากุ้ง” พิธีกร นักร้อง และนักแสดงชาวไทย เป็นนักร้องนำของวง ร้องเรียนมายังเพจ หลังถูกผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านโกง

โดยข้อความระบุว่า เพจ “ขอนแก่นอย่าล้ำเส้น” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณเบิร์ด สมาชิกวงดนตรี “มาเจนต้า” และ คุณเก๋ ภรรยา เจ้าของแบรนด์สินค้าชื่อดัง ว่าถูกผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน ที่มีฉายาในวงการว่า “ผู้รับเหมาไฮโซเมืองขอนแก่น” ฉ้อโกงเกี่ยวกับการสร้างโรงจอดรถยนต์ มูลค่า 2 ล้านบาท และ สร้างบ้าน มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท

0015 1024x576 1

ปัจจุบันทั้งโรงจอดรถยนต์และบ้านไม่สามารถก่อสร้างต่อได้ เพราะไม่มีความมั่นคงแข็งแรง หวั่นอาคารพังถล่ม สูญเงินไปกว่า 7.9 ล้านบาท

โดยพฤติการณ์เบื้องต้น คือ ผู้รับเหมารายนี้ได้เข้ามารับสร้างโรงจอดรถยนต์และบ้าน 2 ชั้น ให้ผู้เสียหาย ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น แต่เมื่อเข้ามาดำเนินการกับไม่ได้ก่อสร้างตามแบบที่เจ้าของบ้านยื่นขออนุญาตตามกฎหมาย พบว่า มีการลดขนาดและจำนวนวัสดุอุปกรณ์ของโครงสร้างหลัก โดยไม่แจ้งให้ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของบ้านทราบ

0009 PNiueBz 1024x576 1

เช่น เหล็กเสาอาคารที่ต้องใส่ จำนวน 12 เส้น ก็ใส่ให้เพียง 6 เส้น ทำให้ทั้งโรงจอดรถยนต์และบ้านที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานและไม่มีความมั่นคงแข็งแรง เจ้าของบ้านพยายามติดต่อให้มาพูดคุย แต่ผู้รับเหมาบ่ายเบี่ยง โยนให้ผู้เสียหายคุยกับบุคคลที่อ้างว่า เป็นทนายความ

ผู้เสียหายหวั่นประชาชนจะตกเป็นเหยื่อเพิ่ม จึงร้องเรียนและเตือนภัย เบื้องต้น เพจ “ขอนแก่นอย่าล้ำเส้น” รับเรื่องร้องเรียน และเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อข้อมูลไปยังเพจดังกล่าว ก่อนลงพื้นที่ไปพบผู้เสียหาย ที่บ้านพักผู้เสียหาย ในอ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับ นายกิตติพงษ์ วัฒนราช อายุ 38 ปี หรือ “เบิร์ด มาเจนต้า” และ น.ส.อาทิติญา อันทระบุตร หรือ เก๋ อายุ 30 ปี ภรรยาและเจ้าของแบรนด์บ้านแก้วใส พร้อมด้วย นายพงษ์พัฒน์ เสนีย์ วิศวกร พาผู้สื่อข่าวสำรวจดูบ้านปูน 2 ชั้น ที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ มีเพียงการเทล่อเสาบ้านและเทพื้นปูนชั้น 1 และชั้น 2 ไว้เท่านั้น

0008 GciUJsr 1024x576 1

ส่วนบริเวณพื้นที่โดยรอบมีเพิงพักคนงาน อุปกรณ์นั่งร้าน และอุปกรณ์ก่อสร้างของผู้รับเหมาวางทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้ามานานนับเดือน เมื่อเข้าไปดูสภาพโครงสร้างของบ้าน พบว่า บริเวณเสาบ้านหลายต้นมีรอยแตกร้าวที่หัวเสาที่เชื่อมต่อกับชั้น 2 บางต้นเริ่มเอียง ขณะเดียวกันที่บริเวณห้องโถงชั้น 1 ซึ่งตามแบบแปลนไม่มีเสาปูน แต่ผู้รับเหมากลับมีการทำเสาปูนขึ้นมา รวมกว่า 10 ต้น

ส่วนอีกหนึ่งสถานที่ก่อสร้างที่ผู้รับเหมารายนี้ก่อสร้างไม่ตรงตามแบบและยังไม่แล้วเสร็จ คือ โรงจอดรถยนต์แบบใช้ระบบไฮโดรลิคยกรถขึ้น หากแล้วเสร็จจะสามารถจอดรถยนต์ได้ 7 คัน งบประมาณก่อสร้างประมาณ 2 ล้านบาท ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากผู้รับเหมาทำการแก้ไขแบบการก่อสร้าง และใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่เจ้าของกำหนดไว้ตามแบบแปลน

น.ส.อาทิติญา เล่าว่า เมื่อปีที่แล้วได้ซื้อที่ดินและสร้างบ้านหลังนี้ โดยแรกเริ่มได้ว่าจ้างผู้รับเหมารายหนึ่งเข้ามาก่อสร้างบ้านให้ แต่หลังจากที่ทำฐานรากของบ้านได้ส่วนหนึ่ง ผู้รับเหมารายนี้ทำการเบิกเงินไปเกินกว่าจำนวนค่าใช้จ่าย

ตอนนั้นยอมรับว่า ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการสร้างบ้านว่า ต้องทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินให้ เมื่อผู้รับเหมารายนี้เบิกเงินไปแล้ว และนำเงินไปใช้ทำธุรกิจอย่างอื่น จึงไม่มีเงินมาเป็นทุนในการก่อสร้างบ้านให้กับตนเองต่อตามสัญญาจ้าง ท้ายที่สุดตนและสามีจึงยุติการว่าจ้างกับผู้รับเหมารายนั้นไป

0005 Ic7AnXj 1024x576 1

จากนั้นจึงมองหาผู้รับเหมาคนใหม่ จนกระทั่งได้พบกับ นายเอ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่เรียนชั้นมัธยมฯ มาด้วยกันกับนายกิตติพงษ์ จึงเกิดความเชื่อใจกัน ซึ่งในวันที่นายเอ มาดูบ้านที่ผู้รับเหมาคนเดิมทำไว้ ได้ทักท้วงจุดต่างๆ ของบ้านว่าทำไม่ถูกต้อง ตอนทำมีวิศวกรควบคุมงานหรือไม่

พร้อมพยายามแสดงให้เราเห็นว่า ตัวเองเป็นมืออาชีพ และยังแสดงความเห็นใจเราด้วยว่า เคยถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน จะขออาสามาทำบ้านให้แทน โดยก่อนที่นายเอ จะเข้ามาเริ่มการก่อสร้างก็ได้พาตนเองและสามีไปดูไซต์งานก่อสร้างในหลายๆ ที่ ในเฟซบุ๊กก็มีการโพสต์ภาพบ้านหลังใหญ่ๆ ที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งตนเองมาทราบภายหลังว่า ไซส์งานก่อสร้างที่พาเราไปดู ไม่ใช่ไซส์งานก่อสร้างที่นายเอ เป็นคนควบคุมดูแล
0004 LUJx58B 1024x576 1

น.ส.อาทิติญา กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตกลงว่าจ้างให้นายเอ มาก่อสร้างบ้านให้ ได้ทำการว่าจ้างให้นายเอ ทำโรงจอดรถยนต์ให้ก่อน พอทำไปได้สักระยะ นายเอ เสนอว่า ให้ทำตัวบ้านไปพร้อมๆ กันกับโรงจอดรถยนต์เลยหรือไม่ โดยให้เหตุผลว่า โครงเหล็กที่ผู้รับเหมาคนเก่าทำไว้ตอนนี้ขึ้นสนิมหมดแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับตัวบ้าน

หากเป็นเช่นนั้นต้องรื้อออกใหม่ทั้งหมด ด้วยความที่ไม่มีความรู้และเชื่อในคำพูดของนายเอ จึงตกลงราคาและทำการก่อสร้างตามที่นายเอ เสนอ โดยก่อนเริ่มก่อสร้างบ้านเพิ่มเติม ตนได้เอาแบบแปลนบ้านที่ได้ขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลตำบลเมืองเก่า มาให้นายเอ ดู

แต่แล้วความผิดปกติก็เกิดขึ้น เริ่มจากโรงจอดรถยนต์ที่ตามแบบ จุดแรก ต้องไม่มีเสาปูนกั้นกลางระหว่างกระจก จุดที่สอง คือ ขอบสองข้างของโรงจอดรถยนต์ที่ตามแบบจะต้องติดตั้งแผ่นคอมโพสิต แต่กลับนำเอาแผ่นซีเมนต์บอร์ดมาติดแทน

ซึ่งก่อนจะจ่ายเงินค่าก่อสร้างให้นายเอ ทั้งส่วนของบ้านและโรงจอดรถยนต์ เป็นเงินประมาณ 5.1 ล้านบาท ตนได้ตรวจสอบดูแบบการก่อสร้างจึงทราบว่า การก่อสร้างโรงจอดรถ ไม่ถูกต้องตามสเปค ซึ่งตอนนั้นนายเอ อ้างว่า จะทำติดตั้งแผ่นคอมโพสิตในภายหลัง แต่หลังจากได้รับเงินแล้ว กลับอ้างเรื่องของความปลอดภัยและไม่ทำตามที่ตกลงไว้

0003 XDDF3yy 1024x576 1

ขณะที่ นายกิตติพงษ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากที่เห็นความผิดปกในการก่อสร้าง จึงขอตรวจสอบเอกสารใบแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยได้รับความช่วยเหลือจากวิศวกรที่ทำงานดนตรีอยู่กับตนเอง เมื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ยิ่งพบว่า ผู้รับเหมารายนี้มีการแอบลดสเปคของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้สร้างบ้าน โดยไม่แจ้งให้เราทราบ

เช่น การสั่งซื้อคอนกรีตผสมเหล็กที่มีกำลังอัด 180 Cylinder มาเทพื้นและหล่อเสาบ้าน จากแบบที่ต้องเป็น 240 Cylinder ขณะที่เหล็กเส้นที่ใช้ในการทำเสา จากแบบที่ต้องใช้จำนวน 12 เส้น ก็ใส่ให้เพียง 6 เส้น แต่เวลาเบิกเงินค่าวัสดุกลับเบิกตามจำนวนตามแบบ ซึ่งทั้งหมดไม่ตรงตามหลักการความมั่นคงแข็งแรงของการก่อสร้าง ที่มีการคำนวณทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว

เมื่อตนเองและภรรยาพบรู้ความจริง ได้ตรวจสอบประวัติของวิศกรคุมงานที่นายเอ ผู้รับเหมา พามาควบคุมงาน จนกระทั่งทราบว่า เป็นวิศวกรเก๊ และ ไม่ได้มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรตามกฎหมาย ซึ่งท้ายที่สุดวิศวกรเก๊รายนี้ ก็ยอมรับว่าตนเอง ไม่ใช่วิศกร

ต่อมาตนเองและภรรยาก็พยายามโทรศัพท์ติดต่อให้พูดคุยแก้ไขให้ แต่ผู้รับเหมารายนี้กลับบ่ายเบี่ยง และให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นทนายความเป็นคนพูดคุย แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมารายนี้ พร้อมพวก โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากที่ต้องสูญเงินไปเกือบ 8 ล้านบาท แต่สิ่งปลูกสร้างกลับไม่แล้วเสร็จและเสี่ยงที่จะถล่มลงมา ซึ่งตนและภรรยาคิดว่า ต้องรื้อบ้านหลังนี้สร้างใหม่0002 Kvac70N 1024x576 1

เพราะหากฝืนทำต่อไปบ้านอาจจะพังถล่มลงมาในวันข้องหน้าก็เป็นได้ และขอฝากเตือนไปยังคนที่คิดจะสร้างบ้าน ขอให้ศึกษาประวัติของผู้รับเหมาให้ดี หากไม่มีความรู้เรื่องการสร้างบ้านก็ขอให้ปรึกษาบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อ และสูญเงินหลายล้านบาทเหมือนตนเอง

… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8272127

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *