ไม่ธรรมดาแล้ว โฉมหน้า 2 มือปาบึ้มงานรำวงอุ้มผาง พบโยงกลุ่มกองกำลัง
คืบหน้าล่าสุดกรณีวัยรุ่นปาระเบิดกลางลานหน้าเวทีรำวงย้อนยุค อุ้มผาง จ.ตาก ต่อมา นายมาโนช โพธิ์เนียม นายอำเภออุ้มผาง สั่งการด่วนปิดชายแดนอุ้มผางชั่วคราว นอกจากนี้เพจดังได้เผยโฉม 2 วัยรุ่นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงและพบประวัติเชื่อมโยงกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่กำลังหลบหนี
โดยได้เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดงานแผ่นดินดอยลอยฟ้าอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ที่เกิดเมื่อช่วงเวลา 23.30 น. ของวันที่ 13 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา โดยจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณสนามบินเก่า วันเกิดเหตุเป็นคืนที่ 6 ของการจัดงาน
จุดระเบิดเป็นลานหน้าเวทีรำวงย้อนยุค งานแผ่นดินดอยลอยฟ้ากาชาดอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก จึงรีบไปที่เกิดเหตุพบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บชาย หญิง ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ 48 คน และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย จึงประสานหน่วยกู้ภัยอุ้มผางและนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอุ้มผางอย่างทุลักทุเล เนื่องจากรถพยาบาลไม่พอ จึงใช้รถยนต์บ้าง สามล้อบ้าง ต่อมามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาลอุ้มผาง
หลังรับแจ้งเหตุโรงพยาบาลอุ้มผางได้เปิดแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันหน่วยกู้ชีพสมาคมกู้ชีพกู้ภัยอุ้มผาง และหน่วยกู้ชีพใกล้เคียง เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในครั้งนี้ ได้ทำการตรวจสอบและแยกผู้ประสบเหตุได้ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บกว่า 51 ราย ในจำนวนนั้น มี 5 ราย อาการสาหัส รวมยอดทั้งหมด 54 ราย ก่อนทำการลำเลียงนำส่งโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อรักษาต่อไป
สำหรับสาเหตุการปาระเบิดครั้งนี้เกิดจากการทะเลาะวิวาท โดนทำร้ายระหว่างกันในฝั่งเมียนมาอยู่แล้ว แต่มาเจอคู่อริเก่าในงานแผ่นดินดอยลอยฟ้า จึงก่อเหตุปาระเบิด ซึ่งระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดสังหาร เอ็มเค 2 เหมือนน้อยหน่า ซึ่งผู้ก่อเหตุได้มาจากค่ายฐานทหารที่ อ.ซูการรี ในฝั่งเมียนมา
หลังค่ายแตก ได้เก็บมาไว้ใช้เป็นของตนเอง และพกพามาเที่ยวด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุ้มผาง สืบทราบว่าเป็นชายวัยรุ่นชาวกะเหรี่ยง 2 คน ที่ก่อเหตุปาระเบิดในครั้งนี้ ซึ่งก็คือ
1. นาย ดิดิ อายุ 16 ปี ชาวเมียนมา เชื้อสายกะเหรี่ยง รับสารภาพว่าเป็นคนขว้างระเบิด
2. นาย จอลิทู กวีจรัสทวี อายุ 17 ปี ชาวไทย เชื้อสายกะเหรี่ยง รับสารภาพว่าเป็นเพื่อนกับนาย ดิดิ และเดินทางมาในที่เกิดเหตุด้วยกัน
และที่ไม่ธรรมดาเป็นเพราะจากการสืบประวัติของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม กองกำลังชนกลุ่มน้อย KTLA โดยทั้งคู่เป็นทหารกองกำลังกองทัพกอทูเล (Kaw Thoo Lei Army) ที่ต่อต้านทหารเมียนมาซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนี
ขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการในการตั้งจุดตรวจ/ลว. เฝ้าตรวจ ในพื้นที่เพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ก่อเหตุผ่านช่องทางธรรมชาติ ตามแนวชายแดน ออกไปยังต่างประเทศแล้ว